นี่คือ 8 แร็ปเปอร์หญิงที่แร็พเร็วที่สุดในวงการเคป็อป

8 แร็ปเปอร์หญิงเคป็อปที่แร็พเร็วจนคุณจะต้องตกหลุมรัก

โมโมะ TWICE

แร็พได้ 6.88 พยางค์ต่อหนึ่งวินาที และ 55 พยางค์ต่อ 8 วินาที

โมโมะ ฮิราอิ เป็นศิลปินชาวญี่ปุ่น-เกาหลีที่อยู่ในเกาหลีใต้ โมโมะเป็นทั้งนักร้อง นักเต้น และซับแร็ปเปอร์ของวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง “TWICE” ที่อยู่ภายใต้สังกัดของค่าย JYP Entertainment ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่แร็ปเปอร์นำของวง แต่ทักษะด้านการแร็พของเธอก็ไม่ได้เป็นรองใครเลย เพราะเธอสามารถพ่นคำและประโยคออกมาได้เร็วกว่าแร็ปเปอร์นำของหลายๆ วงในวงการเคป็อปซะอีก นอกจากนี้โมโมะยังเป็นศิลปินเคป็อปชาวต่างชาติที่ได้รับความนิยมมากๆ อีกหนึ่งคนในเกาหลีใต้ อีกทั้งความนิยมที่เธอได้รับยังเป็นตัวบอกเล่าถึงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างทั้งสองประเทศอีกด้วย ซึ่งหลังจากที่วิดีโอเต้นของเธอกับน้องสาวกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ เธอก็ได้รับการติดต่อกลับจากคนที่ทำงานในวงการบันเทิงเป็นการส่วนตัว

ถึงแม้ว่าเธอและน้องสาวจะเข้าร่วมการออดิชั่นด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็มีเพียงแค่โมโมะเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จและได้เข้าร่วมเป็นเด็กฝึกของค่าย JYP Entertainment ในปี 2012 ต่อมาเธอก็ถูกรับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง TWICE ผ่านรายการเซอร์ไววัลรายการหนึ่งที่มีชื่อว่า “Sixteen” ซึ่งจริงๆ แล้วในระหว่างการแข่งขันเธอได้ถูกคัดออก แต่สุดท้ายเธอก็สามารถกลับเข้ามาในรายการได้อีกครั้ง

เอ็กซี่ WJSN

แร็พได้ 7.00 พยางค์ต่อหนึ่งวินาที และ 56 พยางค์ต่อ 8 วินาที

ชูโซจอง หรือที่หลายๆ คนรู้จักเธอในชื่อ “เอ็กซี่” หนึ่งในสมาชิกของวง “WJSN” วงเกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติเกาหลีใต้-จีน ซึ่งนอกจากเธอจะเป็นหัวหน้าวง นักร้อง และนักแต่งเพลงแล้ว เธอยังควบตำแหน่งแร็ปเปอร์ของวงอีกด้วย โดยเอ็กซี่ได้เริ่มต้นการทำงานในสายอาชีพนี้จากการเข้าไปเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการ Unpretty Rapstar ในปี 2015 ซึ่งต่อมาในปีเดียวกันเธอก็ได้มีโอกาสได้ลองชิมงานในสายการแสดงจากละครเรื่องหนึ่ง และในปี 2016 ในที่สุดเธอก็ได้เดบิวต์เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง WJSN ด้วยซิงเกิ้ลเปิดตัวซิงเกิ้ลแรกอย่างเพลง “Mo Mo Mo” และเพลง “Catch Me”

ต่อมาในปี 2017 เธอได้เริ่มต้นในการเป็นศิลปินเดี่ยวครั้งแรกจากการร่วมงานกับยูนาคิมในซิงเกิ้ล “Love Therapy” ของเธอ และในปี 2018 เอ็กซี่ก็ได้เริ่มชิมงานทางสายนักแต่งเพลงครั้งแรกด้วยเพลง “Thawing” เพลงของวงเธอเอง และเมื่อไม่นานมานี้เราก็ได้มีโอกาสเห็นเธอในฐานะนักแสดงอีกครั้งในซีรีส์เรื่อง “Idol: The Coup” ทางช่อง JTBC ซึ่งนอกจากผลงานของเธอที่เราได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ปัจจุบันทักษะทางด้านการแร็พที่ยอดเยี่ยมของเธอในเพลง “Wipe Out” ยังเป็นที่กลายเป็นที่สนใจ และถูกจับตามองจากแฟนๆ อีกด้วย

แชยอง TWICE

แร็พได้ 7.00 พยางค์ต่อหนึ่งวินาที และ 56 พยางค์ต่อ 8 วินาที

ซนแชยอง เป็นแร็ปเปอร์ และเป็นนักร้องชาวเกาหลีใต้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของวง TWICE อีกด้วย แชยองได้ลองสนามมามากมายก่อนที่จะเข้ามาเป็นเด็กฝึกที่ JYP Entertainment เพราะก่อนหน้านั้นเธอได้เรียนเต้นและเรียนร้องเพลงมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะออดิชั่นเข้ามาเพื่อเป็นนักร้อง แต่พอได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกแล้วเธอก็ใช้เวลาเพียงไม่นานในการฝึกฝนเพื่อเป็นแร็ปเปอร์ นอกจากนี้ในปี 2015 แชยองยังเคยเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในรายการเซอร์ไววัล “Sixteen” และเป็นหนึ่งในผู้ชนะเก้าคนสุดท้ายที่จะเข้าร่วมวง อีกทั้งเธอยังเป็นสมาชิกคนแรกของวงที่ถูกเขียนชื่อลงในเครดิตสำหรับการแต่งเนื้อแร็พของตัวเองในเพลงเพลงหนึ่งของวงอีกด้วย

และถึงแม้ว่าเธอจะเริ่มต้นจากการเป็นนักร้อง แต่ทักษะทางด้านการแร็พของเธอก็ไม่ได้น้อยไปกว่าแร็ปเปอร์มืออาชีพคนอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย เพราะไม่งั้นเธอคงไม่มีรายชื่ออยู่ในการจัดอันดับแร็ปเปอร์หญิงที่แร็พเร็วที่สุดอย่างแน่นอน และในปัจจุบันเธอก็ได้ใช้ทักษะทางด้านการร้องเพลงของเธอสำหรับการเป็นซับโวคอลของวง และทำหน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมายนั้นได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

ดามี Dreamcatcher

แร็พได้ 7.13 พยางค์ต่อหนึ่งวินาที และ 57 พยางค์ต่อ 8 วินาที

ลียูบิน หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ ดามี แร็ปเปอร์หลักของวง “Dreamcatcher” ภายใต้สังกัดค่าย Dreamcatcher Company

ดามี เดบิวต์ครั้งแรกในปี 2014 ในฐานะสมาชิกของอดีตวง MINX ซึ่งในปี 2016 ทางค่ายได้ตัดสินใจรีแบรนด์วงใหม่ภายใต้ชื่อว่า “Dreamcatcher” พร้อมกับเพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาอีก 2 คน และเดบิวต์วงในปี 2017 ด้วยซิงเกิลหลักอย่างเพลง “Nightmare” ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก อีกทั้งการที่เธอใช้เสียงทุ้มและแหบของเธอควบคู่ไปกับการร้องไลน์ประสานของตัวเธอและนักร้องคนอื่นๆ ได้อย่างลงตัวก็ยังทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากเดิมอีกด้วย

CL 2NE1

แร็พได้ 7.38 พยางค์ต่อหนึ่งวินาที และ 59 พยางค์ต่อ 8 วินาที

ลีแชริน แห่งวง 2NE1 หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ “CL” นั่นเอง ซีแอลเป็นไอดอลเคป็อปที่มีความสามารถหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการร้อง หรือการแต่งเพลงแล้ว ซีแอลยังเป็นแร็ปเปอร์ที่มีพรสวรรค์ที่น่าทึ่งอีกด้วย ซึ่งเดิมทีแล้วซีแอลเคยเป็นเด็กฝึกภายใต้สังกัด JYP Entertainment มาก่อนที่เธอจะเข้ามาเป็นเด็กฝึกของ YG Entertainment โดยในปี 2009 เธอได้เดบิวต์เป็นหนึ่งในสมาชิกของวง 2NE1 อีกทั้งยังควบตำแหน่งหัวหน้าวง และแร็ปเปอร์ของวงอีกด้วย นอกจากนี้ในปีเดียวกันเพลงจากอัลบั้มเปิดตัวของวง 2NE1 ยังทำให้พวกเธอได้รับรางวัล “เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี” ซึ่งมันก็ทำให้พวกเธอกลายเป็นวงรุกกี้ (วงน้องใหม่) วงแรกที่ได้รางวัลแดซังในปีเดียวกันกับปีที่พวกเธอเดบิวต์

ซีแอลเคยร่วมงานกับไอดอลศิลปินมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น จีดราก้อน มินซี หรือคนอื่นๆ นอกจากนี้ในซิงเกิ้ลแรกของซีแอลอย่างเพลง “Hello Bitches” ที่ถูกปล่อยออกมาในปี 2015 ก็ได้เดบิวต์อยู่ที่อันดับที่ 97 ของ Billboard’ Music Awards อีกทั้งทักษะทางด้านการแร็พที่ดีเยี่ยมของเธอยังทำให้เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับศิลปินฮิปฮอปและศิลปินป็อปเบอร์ต้นๆ อีกมากมาย เช่น เพลง “Doctor Pepper” ของ Diplo, “Daddy” ของ PSY, “Surrender” ของ Lil Yachty และยังได้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “My Little Pony: The Movie” อีกด้วย

เจนนี่ BLACKPINK

แร็พได้ 7.63 พยางค์ในหนึ่งวินาที และ 61 พยางค์ใน 8 วินาที

คิม เจนนี่ ไอดอลผู้ที่ได้รับความสนใจจากคนทั่วทุกมุมโลกอยู่ในขณะนี้ เธอคือหนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลรุ๊ปเคป็อปที่โด่งดังที่สุดในโลก ซึ่งความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของเจนนี่เป็นตัวที่ช่วยส่งเสริมความเป็นแร็ปเปอร์ของเธอได้อย่างมาก เพราะเมื่อตอนที่เธอเข้ามาเป็นเด็กฝึกที่ YG Entertainment เจนนี่มักจะถูกขอให้คัฟเวอร์เพลงป็อปที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่หลายครั้ง และด้วยความที่เพลงป็อปตะวันตกส่วนใหญ่มักจะมีท่อนแร็พอยู่แทบจะทุกเพลง และเมื่อนำมาร้องคัฟเวอร์แล้วพวกท่อนแร็พเหล่านั้นก็มักจะตกมาอยู่ที่เจนนี่อยู่เสมอ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าทำไมจะต้องเป็นเธอที่ได้ท่อนแร็พภาษาอังกฤษอยู่ตลอด ซึ่งเหตุผลก็คือ เจนนี่เป็นเด็กฝึกเพียงคนเดียวที่พูดสื่อสารภาษาอังกฤษในระดับสูงได้

โดยครูฝึกคนหนึ่งได้ลองแนะนำให้เจนนี่ลองแร็พเป็นภาษาเกาหลีดู เพราะเห็นว่าเธอแร็พภาษาอังกฤษได้ดี ซึ่งเจนนี่ก็ได้เริ่มต้นการเป็นแร็ปเปอร์ของเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลายๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเสียงของเจนนี่นั้นเหมาะกับการแร็พ และการร้องมากๆ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงถูกมองว่าเป็นอัจฉริยะในทุกๆด้าน นอกจากนี้ซิงเกิลเดี่ยวซิงเกิ้ลแรกของเธออย่างเพลง “Solo” ก็ได้ทำลายสถิติมาแล้วมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นรางวัลรับรองระดับแพลตทินั่มโดย KMCA และการที่เพลงดังกล่าวติดอันดับชาร์ตเพลงดิจิทัลจากทั่วโลกของ Billboard

เยจี Fiestar

แร็พได้ 7.88 พยางค์ต่อหนึ่งวินาที และ 63 พยางค์ต่อ 8 วินาที

ลีเยจี เป็นแร็ปเปอร์และนักร้องของวงเกิร์ลกรุ๊ปเคป็อปอย่างวง “Fiestar” หรือที่เรารู้จักกันดีในนามเยจีนั่นเอง เยจีเดบิวต์ครั้งแรกในปี 2012 หลังจากนั้นในปี 2015 เธอก็ได้เข้าร่วมในรายการเซอร์ไววัล Unpretty Rapstar 2 ที่เป็นการแสดงของแร็ปเปอร์หญิงที่ต้องการโชว์ทักษะทางด้านการแร็พของตัวเองออกมาให้กรรมการและผู้ชมได้ดู ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ เยจี จะโด่งดังในฐานะนักร้องและนักเต้น แต่เธอก็สามารถสร้างภาพจำของความเป็นแร็ปเปอร์ในตัวเธอออกมาให้คนทั่วไปได้เห็นอย่างรวดเร็ว โดยเยจีได้เริ่มต้นการเป็นแร็ปเปอร์ครั้งแรกในขณะที่เธอยังอยู่ในรายการ Unpretty Rapstar และเมื่อตอนที่เธอปล่อยเพลง 2 เพลงในซิงเกิ้ลแรกของเธอออกมา อีกทั้งเธอยังได้ร่วมงานกับแร็ปเปอร์ชั้นนำของเกาหลีอย่าง เจย์ปาร์ค โลโค่ และฮันแฮ ที่ทำให้เพลงของเธอกลายเป็นเพลงฮิตและทำให้เธอโด่งดังไปมามากกว่าทุกครั้งที่เธอเคยได้รับในฐานะสมาชิกของวง FIESTAR ต่อมาเยจีก็ได้หันสานต่อในสายแร็ปเปอร์มากขึ้น พร้อมทั้งออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเธอในปี 2016 ที่เป็น maxi-single (มีประมาณ 1-3 เพลง) ที่มีชื่อว่า “Foresight Dream”

โซยอน (G)I-DLE

แร็พได้ 8.00 พยางค์ต่อหนึ่งวินาที และ 64 พยางค์ต่อ 8 วินาที

จอนโซยอน เป็นแร็ปเปอร์ นักร้อง นักแต่งเพลง และเป็นโปรดิวเซอร์ที่อยู่ภายใต้สังกัดของ Cube Entertainment ซึ่งสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้จักโซยอนมากขึ้นก็คือ การที่เธอได้รับหน้าที่เป็นลีดเดอร์และแร็ปเปอร์นำของวง (G)I-DLE นั่นเอง และเชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเธอมาแล้วบ้างก่อนที่เธอจะเดบิวต์ในปี 2017 นั่นก็เพราะว่าเธอเคยเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในรายการเซอร์ไววัลชื่อดังอย่าง “Produce 101” ในปี 2016 โดยหลังจากที่สิ้นสุดรายการเธอได้อันดับที่ 20 จึงทำให้เธอไม่ได้เดบิวต์ในตอนนั้น ซึ่งต่อมาในปีเดียวกัน โซยอนก็ได้เข้าร่วมในรายการเซอร์ไววัลอีกรายการนึงที่ชื่อว่า “Unpretty Rapstar” โดยในรายการนี้ แร็ปเปอร์หญิงจะต้องแสดงทักษะและแสดงผลงานต่างๆให้กรรมการและผู้ชมได้เห็นถึงความสามารถของพวกเธอ และในที่สุดโซยอนก็ทำมันสำเร็จ เพราะในการแข่งขันในครั้งนี้เธอสามารถคว้ารางวัลรองชนะเลิศ และสามารถเข้าร่วมฝึกกับทาง Cube Entertainment ได้ในทันที ถือได้ว่าเธอเป็นไอดอลแร็ปเปอร์หญิงที่ได้สร้างบาร์ไว้สูงที่สุดของวงการเคป็อปในปัจจุบันเลยก็ว่าได้